วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Mambo และ Joomla! CMS


CMS คืออะไร?
 ความหมายของ Content Management System (CMS)
ระบบการจัดการเนื้อหาของเว็บไซต์(Content Management System : CMS) คือ ระบบที่พัฒนาคิดค้นขึ้นมาเพื่อช่วยลดทรัพยากรในการพัฒนา(Development) และบริหาร(Management)เว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกำลังคน ระยะเวลา และเงินทอง ที่ใช้ในการสร้างและควบคุมดูแลไซต์โดยส่วนใหญ่แล้ว มักจะนำเอา ภาษาสคริปต์(Script languages) ต่างๆมาใช้ เพื่อให้วิธีการทำงานเป็นแบบอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็น PHP, Perl, ASP, Python หรือภาษาอื่นๆ(แล้วแต่ความถนัดของผู้พัฒนา) ซึ่งมักต้องใช้ควบคู่กันกับโปรแกรมเว็บเซิร์ฟเวอร์(เช่น Apache) และดาต้าเบสเซิร์ฟเวอร์(เช่น MySQL)

ลักษณะเด่นของ CMS ก็คือ มีส่วนของ Administration panel(เมนูผู้ควบคุมระบบ) ที่ใช้ในการบริหารจัดการส่วนการทำงานต่างๆในเว็บไซต์ ทำให้สามารถบริหารจัดการเนื้อหาได้อย่างรวดเร็ว และเน้นที่การจัดการระบบผ่านเว็บ(Web interface) ในลักษณะรูปแบบของ ระบบเว็บท่า(Portal Systems) โดยตัวอย่างของฟังก์ชันการทำงาน ได้แก่ การนำเสนอบทความ(Articles), เว็บไดเรคทอรี(Web directory), เผยแพร่ข่าวสารต่างๆ(News), หัวข้อข่าว(Headline), รายงานสภาพดินฟ้าอากาศ(Weather), ข้อมูลข่าวสารที่น่าสนใจ(Informations),
ถาม/ตอบปัญหา(FAQs), ห้องสนทนา(Chat), กระดานข่าว(Forums), การจัดการไฟล์ในส่วนดาวน์โหลด(Downloads), แบบสอบถาม(Polls), ข้อมูลสถิติต่างๆ(Statistics) และส่วนอื่นๆอีกมากมาย ที่สามารถเพิ่มเติมดัดแปลง แก้ไขแล้วประยุกต์นำมาใช้งานให้เหมาะสมตามแต่รูปแบบและประเภทของเว็บไซต์นั้นๆ

Mambo และ Joomla!
แมมโบ้และจูมล่า ต่างก็เป็น CMS ที่มีความคล้ายกัน ณ เวอร์ชั่นปัจจุบัน Mambo 4.5.x และ Joomla! 1.0x เหตุที่ทั้ง 2 ตัวเหมือนกันเพราะ ทีมทำ joomla เกิดความขัดแย้งกับผู้ก่อกำเนิดMambo จึงแยกตัวออกจากทีมและมาก่อตั้ง joomla ขึ้นมา แต่ทีมแมมโบ้เองก็ได้ทีมพัฒนาใหม่ซึ่งในนั้นรวมคนไทยเข้าไปด้วย และ CmS ทั้ง 2 ตัว มีภาษาไทยรองรับ และสามารถใช้งานได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ความง่าย

            Mambo และ Joomla! เป็น CMS ที่ง่ายต่อการใช้ และทำได้รวดเร็วกว่า Open Source CMS อื่นๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน สามารถใช้ได้ทั้งกับเว็บไซต์ส่วนตัวขนาดเล็กจนถึงเว็บไซต์เพื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งความง่ายที่เป็นจุดเด่นของ Mambo มีดังนี้
การติดตั้งและการใช้งาน
            Mambo และ Joomla! มีขั้นตอนการติดตั้งที่ไม่ซับซ้อนเพียง 4 ขั้นตอน และมีคำอธิบายในหน้าจอการติดตั้งที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการใช้งานแบบ Web Interface ซึ่งมีเครื่องมือที่เพียงพอต่อความต้องการของเว็บไซต์ในหลายรูปแบบ

การออกแบบ

            Mambo และ Joomla! ยืดหยุ่นต่อการออกแบบหน้าตาเว็บไซต์ โดยมีเครื่องมือในการเลือกรูปแบบTemplate สำหรับใช้ในเว็บไซต์ของคุณได้โดยวิธีง่ายๆ และประหยัดเวลาเพียงคลิ๊กเดียวก็สามารถเปลี่ยนหน้าตาเว็บไซต์ได้ทันที  นอกจากนี้ยังมีรูปแบบ Template ที่คุณสามารถหาดาวน์โหลดฟรีได้จากเว็บไซต์ Mambo ต่างๆ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถนำมาประยุกต์ให้เข้ากับความต้องการได้ง่ายขึ้น

การเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงเนื้อหา

            การเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงเนื้อหาไม่ว่าจะเป็นรูปภาพหรือตัวอักษร (Content) ก็สามารถทำได้โดยง่าย มีลักษณะการใช้งานเป็นแบบ WYSIWYG (what you see in what you get) เช่นเดียวกับ MS Word ซึ่งผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางด้าน HTML ทำให้การเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก

ความปลอดภัยของระบบ
            Mambo และ Joomla! ได้ออกแบบระบบบริหารเว็บไซต์ให้สามารถกำหนดสิทธิของผู้ใช้งานในระดับต่างๆ กัน สำหรับการเพิ่มเติมหรือแก้ไขเนื้อหาในส่วนที่กำหนดไว้ทำให้เพิ่มระดับความปลอดภัยของการเข้าถึงข้อมูลจากทั้งบุคคลภายในและภายนอก

ประสิทธิภาพและความสามารถของ Mambo และ Joomla!
            ประโยชน์หลักของ Mambo และ Joomla! คือการทำให้คุณสามารถจัดการกับเนื้อหาหรือข้อความ (Content) ได้โดยตรงผ่านหน้าเว็บ โดยผู้บริหารเว็บหรือผู้ดูแลเว็บไซต์ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางด้านโปรแกรม เช่นHTML ในการอัพเดทเว็บ เพราะ Mambo มี editor ออนไลน์ เช่น WYSIWYG editor ไว้เพื่อการจัดรูปแบบข้อความตัวอักษร (Text) และรูปภาพ ยิ่งกว่านั้นคุณไม่จำเป็นที่ต้องอัพโหลดเอกสารด้วยโปรแกรม FTP เพียงแค่คลิ๊กปุ่มapply หน้าเว็บของคุณก็จะออนไลน์เตรียมพร้อมรับผู้เข้าชมที่จะเข้ามาดูในเว็บของคุณได้ทันที

เราสามารถใช้ Mambo และ Joomla! กับเว็บไซต์ได้หลากหลายประเภท เช่น

-          เว็บท่า (Portals)
-          เว็บไซต์เชิงพาณิชย์ (Commercial Websites)
-          เว็บไซต์ที่ใช้ในองค์กร (Intranet Websites)
-          เว็บไซต์ที่ไม่แสวงหากำไร (Non-Profit Websites)
-          เว็บไซต์ส่วนตัว (Personal Websites)
-          เว็บไซต์ที่สร้างจาก Flash (Integrated Flash Sites)

นอกจากนี้ Mambo และ Joomla! ยังสามารถใช้งานได้หลายอย่างเช่น

-          อัพเดทเว็บไซต์ด้วยข่าว บทความและรูปภาพ
-          ง่ายต่อการสร้างเนื้อหาของคุณด้วยเมนู เช่น ผลิตภัณฑ์ > ฮาร์ดแวร์ > เครื่องเล่นดีวีดี หรือผลิตภัณฑ์ >ฮาร์ดแวร์ > เครื่องเล่นซีดี
-          อัพโหลด MS Word, MS Excel และ Acrobat PDF เพื่อให้ดูเอกสารได้
-          จัดการ Banner เช่น โฆษณา
-          สร้างโพล (แบบสำรวจ)
-          จัดการเว็บลิงค์
-          จัดการ FAQ
-          จัดการข่าวที่อยู่ในรูป Flash
-          จัดการกับ Mutti-media Flash, และไฟล์รูปภาพ .jpg , .pif, .bmp  และ .png
-          จัดการกับการป้อนข้าวจากแหล่งข่าวที่มาจากเว็บไซต์ต่างๆ
-          จัดการกับ Contact และอีเมลจากหน้าต่างๆ
-          ให้ระดับการเข้าถึงข้อมูล (Access) กับผู้ใช้
-          จัดการหน้า Archive
-          จัดการ Components, Modules และ Templates ที่พัฒนาขึ้นมาเพิ่มเติม เช่น E-Commerce, Forums,รูปภาพ ปฏิทิน กำหนดการ และ Help Desk เป็นต้น


 ความต้องการระบบ โฮสที่รองรับจูมล่าและแมมโบ้
-          ต้องมี php4 ขึ้นไป แนะนำที่ php5
-          ต้องมี Mysql 3 ขึ้นไป แนะนำที่ MySQL5
-          ต้องมี FTP ให้ใช้


*ความปลอดภัย
Mambo และ Joomla! ทั้ง สองตัวมีความปลอดภัยในการใช้งานในระดับดี และเว็บที่ใช้ CMS ทั้ง 2 ตัวมักถูกแฮกจาก Plugin เสริม ซึ่งบางทีเก่ามากและผู้ใช้ไม่ยอมอัพเดต การใช้งาน CMS Opensource ต้องขยันอัพเดตข่าวสารความปลอดภัย และคอมอัพเดตตามเวอร์ชั่นต่างๆ ของ CMS นั้นๆ



เว็บบอร์ดสอบถามปัญหา http://www.mambo.or.th 

นอกจากนั้น ยังมีบริษัทที่รับ Develop , Implement พัฒนาออกแบบแทมเพลต ของ แมมโบ้ และ จูมล่า เช่น บริษัท มาร์เวลิค เอ็นจิ้น จำกัด




  

ที่มา :  หนังสือสร้างเว็บแบบมืออาชีพด้วย mambo
    OPEN SOURCE Content Management System (CMS)
          ผู้แต่ง อัครวุฒิ  ตำราเรียง MamboHub.com

1 ความคิดเห็น:

  1. เข้าใจว่ามันคือโปรแกรมที่เอามาควบคุมเว็บไซต์ ที่ถูกออกแบบมาจากโปรแกรมอื่นๆ เพื่อให้ผู้ดูแลทำงานได้ง่ายขึ้น ไม่ใช่โปรแกรมออกแบบเว็บไซต์แบบพวก Dreamwever ใช่ป่ะครับ

    ตอบลบ

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น